ซาลาเปา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซาลาเปา (ภาษาจีน: 包子, พินอิน: bāozi เปาจื่อ) เป็นอาหารจีนชนิดหนึ่งทำมาจากแป้งสาลีและยีสต์ และนำมาผ่านขบวนการนึ่ง ซาลาเปาจะมีไส้อยู่ภายในโดยอาจจะเป็นเนื้อหรือผัก ซาลาเปาที่นิยมนำมารับประทานได้แก่ ซาลาเปาไส้หมู และ ซาลาเปาไส้ครีม สำหรับอาหารที่มีลักษณะคล้ายซาลาเปา ที่ไม่มีไส้จะเรียกว่า หมั่นโถว นอกจากนี้ซาลาเปายังคงเป็นส่วนหนึ่งในชุดอาหารติ่มซำ ในวัฒนธรรมจีน ซาลาเปาสามารถนำมารับประทานได้ในทุกมื้ออาหาร ซึ่งนิยมมากในมื้ออาหารเช้า
ซาลาเปาได้ชื่อว่าถูกคิดค้นขึ้นมาโดยขงเบ้งในคริสต์ศตวรรษที่ 2
ในภาษาอังกฤษเรียกซาลาเปาว่า "baozi" และมักจะเรียกสั้นๆ ว่า "bao"
บะจ่าง หรือ ขนมจ้าง (จีน: 肉粽 ข้าวห่อไส้เนื้อ, 粽子 ข้าวห่อด้วยใบไม้) เป็นอาหารจีน ทำด้วยข้าวเหนียวใส่หมูหรือหมูแดงกับถั่วหรือเม็ดบัว ผัดแล้วห่อด้วยใบไผ่มัดเป็นทรงพีระมิดสามเหลี่ยม แล้วนึ่งให้สุก ปกติบะจ่างจะมีการทำกันมากในเทศการวันไหว้ขนมจ้าง คือวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินทางจันทรคติ บางคนใช้ทานเป็นขนม บางคนก็ทานเป็นอาหาร
ตำนานของบะจ่าง
มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ในสมัยจั้นกว๋อ (ราวก่อนค.ศ. 403 - 211) กษัตริย์ฉู่เซียนอ๋อง ทรงโปรดปรานขุนนางกังฉินเป็นอย่างมาก ต่อมา กวีผู้รักชาตินาม "ชวีหยวน" ได้พูดเตือนพระองค์ ทำให้ชวีหยวนถูกปลดจากตำแหน่ง และถูกไล่ออกจากเมืองหลวง นอกจากนี้ รัฐฉินยังถูกรัฐฉู่เข้ารุกรานจนประเทศล่มสลาย ประชาชนยากไร้ ชวีหยวนรู้สึกอดสูแก่ใจที่ไม่อาจช่วยเหลือประเทศชาติได้จึงกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เมื่อชาวบ้านที่นับถือในตัวชวีหยวนทราบเรื่องเข้า ก็ช่วยกันหาศพของชวีหยวน แต่ก็ไม่พบ และเพื่อเป็นการระลึกถึงความรักชาติของชวีหยวน พวกชาวบ้านจึงได้มีการโยนบะจ่างลงในน้ำ เพื่อให้บรรดาสัตว์น้ำไม่ต้องไปกินศพของชวีหยวน แต่มากินบะจ่างแทน
ถึงเราจะชอบเรียกซาลาเปาไม่มีไส้ว่าหมั่นโถวก็เถอะครับ จริงๆ แล้วหมั่นโถวมีหลายรูปแบบเหลือเกิน แต่คนไทยไม่ค่อยได้กินแบบอื่นนอกจากไอ้ที่กินกะขาหมู
คำว่าซาลาเปาที่เกิดในประเทศไทยนั้น ซาลาที่อยู่ข้างหน้ามาจากไหนไม่ทราบ ไม่น่ามาจากมาภาษาจีนเลยครับ หรือผมจะตกหล่นข้อมูลไปก็ไม่รู้นะ แต่ผมคิดว่าคำภาษาจีนแม้แต่คำท้องถิ่นแต้จิ๋ว มันก็ไม่น่าเพี้ยนมาเป็นซาลาเปา
ผมสมมติละกัน ว่ามันเพี้ยนมาจากภาษาจีนจริง จะมีใครช่วยผมคิดไหมครับว่ามันมาจากคำไหน ผมลองคิดดูก็พอเห็นเค้าบ้างแต่ไม่อยากพูด มันห่างไกลไป
อ้อ ในสมัยรัชกาลที่หกเคยนิยมเรียกซาลาเปาว่า ตะเลาเปา หรือ ซะเลาเปา ลองมาช่วยกันคิดดูว่าเห็นภาพมากขึ้นไหมครับว่ามาจากคำไหน
包子的历史
提起包子,不管南方人北方人都不會陌生,包子是我國較為普遍的一種食品。據《事物紀原》載,諸葛亮南征孟獲,在渡瀘水時,邪神作祟,按南方習俗,要以“蠻頭”(南方少數民族的頭)祭神,便下令以麥麵裹牛羊豬肉,做如人形以祭,始稱饅頭。實際上這就是最初的包子,算起來,中國人吃包子的歷史,也有1700多年了。饅頭原本是有餡的,後來為了區別,才將無餡的稱為“饅頭”,有餡的稱之為“包子”。
各地包子北京開花
北京薈萃了南北的包子。北京的包子店可謂是百花齊放,不過除了像“天津狗不理”這些包子店是專門的連鎖店外,其他很多美味的包子都是出自於某家酒樓。比如在粵系菜餐館裏你可以很容易找到各種各樣的廣柲袒拾筒鏌诖▊S菜餐館裏你可以找到成都小籠包和韓包子,而上海和蘇浙菜係裏可以吃到南翔小籠包和杭州小籠包等。論味道的正宗,除了連鎖老字型大小店外,還是多在這些地方菜係餐館中可以找到。而許多開在路邊的小店,雖然打著某某名包的頭啣,但是相比之下還是不太正宗。
外地名牌包子在北京開包子店,可能最重要的是不僅要發揮自己的傳統特色,還得要入鄉隨俗,既要滿足來自家鄉人的口味,又要贏得當地人的信賴。
於是北京除了一些名牌包子店,其他包子店都綜合了南北方兩種口味,既賣南方包子又賣北方包子,甚至連做法都融合一起,分不開了。但是我現在要介紹的,是正宗的地方名牌包子,使你不出京城就可以嘗到南北方的代表包子,豈不美事一樁!
包子文化南北有別
全國各地製作的包子,其製作和造型方法大體相同,但是在餡心的調製上各盡其妙,各地都有自己獨特的風味品種。
เนี่ยครับ ผมเพิ่งค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าคนจีนเองก็พูดเหมือนกันว่าประวัติซาลาเปามีมาประมา
ณ 1700 กว่าปีแล้ว แสดงว่ามันย้อนไปสมัยขงเบ้งจริงๆ นะครับ ที่อดประหลาดใจไม่ได้คือ แค่แป้งห่อเนื้อ ทำไมสมัยเลียดก๊กไม่มีใครคิดทำหว่า?
คือแต่ก่อนผมก็เคยคิดเหมือนกันครับว่าซาลาเปานี่มันน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยเสินหนงด้วย
ซ้ำ ตอนนี้ผมชักจะคิดว่า เป็นไปได้ไหมครับที่ตอนแรกคนกินแต่หมั่นโถว ไม่มีซาลาเปา คือกินหมั่นโถวกับเนื้อเป็นชิ้นๆ เหมือนอย่างที่เรากินหมั่นโถวกับขาหมูนั่นเอง เสร็จแล้วตอนหลังถึงได้มีคนเอามาห่อแล้วนึ่งไปพร้อมกัน
ในบทความระบุว่าอย่างนี้ครับ บอกว่าในตอนที่ขงเบ้งทำซาลาเปา ใส่ไส้ลงไปด้วยครับ แต่ว่าตอนนั้นเรียกว่า "หมั่นโถว" แล้วตอนหลังเพื่อให้แตกต่างกัน ถึงได้เรียกว่า "เปาจื่อ" แสดงว่าที่เรียกว่าหมั่นโถวนั้นคือซาลาเปาก็เป็นหมั่นโถวที่มีไส้ แต่ตอนแรกเรียกหมั่นโถวเหมือนกันหมด คงเอาตามอย่างหมั่นโถวที่มีอยู่เดิมกระมัง แล้วตอนหลังตั้งชื่อใหม่ให้แยกกันได้
ตกลงว่า ขงเบ้งนี่มันจะเป็นคนแรกที่เอาเนื้อยัดไส้ในหมั่นโถวเหรอวะเนี่ย? คนสมัยเลียดก๊ก จั้นกว๋อ ฉิน ฮั่น ร่วมสามพันกว่าปี ทำไมไม่เคยคิด? ผมถึงได้แปลกใจไง